I got a Road Bike accident on the tenth of February, couldn’t move my left side of body for a week, admitted to the hospital. I still can’t lift my left arm well for another 4 weeks, still can’t take…
I got a Road Bike accident on the tenth of February, couldn’t move my left side of body for a week, admitted to the hospital. I still can’t lift my left arm well for another 4 weeks, still can’t take…
ใคร ๆ ก็อยากให้ลูกสูง คุณแม่ก็มักจะบำรุงตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนลูกเกิด มีคนบอกว่าถ้าเด็กแรกเกิดออกมาตัวสูง โตขึ้นก็จะสูง คำตอบคือ “จริง” เด็กที่ตอนแรกเกิดคลอดออกมาตัวยาวมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ตัวสูงในอนาคต ความสูงของพ่อแม่ก็อาจจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะสามารถดูได้ว่าลูกจะเกิดมาตัวสูงหรือไม่ เพราะลูกได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรมจากพ่อแม่นั่นเองค่ะ และในตามหลักปัจจัยทางพันธุกรรมเราอาจประมาณความสูงของลูกได้ด้วยการนำความสูงของพ่อกับแม่ (หน่วยเป็นนิ้ว) มารวมกัน จากนั้นให้หารด้วย 2 และบวกเพิ่ม 2.5 นิ้วสำหรับเด็กผู้ชาย และลบออก 2.5 นิ้วสำหรับเด็กผู้หญิง และอีกหลักการหนึ่งก็คือ ลูกจะมีความสูงเมื่อโตขึ้นจะเป็น 2 เท่าของความสูงเมื่ออายุ 3 ปี อย่างไรก็ดีสูตรคำนวณทั้งสองเป็นเพียงแนวโน้มเท่านั้น ไม่ได้การันตีว่าลูกจะสูงเท่านี้แน่ๆ ทางที่ดีควรให้ลูกออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อการเติบโตที่แข็งแรงสมวัยในอนาคต (Cr: http://www.theasianparent.com) Singapore Parenting Magazine for baby, children,…
แต่ก็มีบางอย่างที่เมื่อซื้อมาแล้วคนเลี้ยงใช้ไม่ถนัดบ้างและไม่พยายามนำมาใช้ด้วยเลยไม่ค่อยได้ใช้และต้องเก็บไปตามระเบียบ บางอย่างเก็บไว้อย่างดีจนลืมนำออกมาใช้ก็มี พอมาดูอีกครั้งลูกก็โตเกินกว่าที่จะใช้ได้แล้ว จะขอแชร์ 4 อย่างคือ 1. ฟองน้ำ ก่อนคลอดซื้อฟองน้ำแบบธรรมชาติมาอย่างแพง 500 บาท แต่คนสอนอาบน้ำใช้ผ้าเช็ดหน้าเด็กแทน ผืนละ 39 บาทเอง ตอนนี้เลยถนัดใช้เป็นผ้าไปแล้ว สรุปว่าได้ใช้ฟองน้ำอยู่นับครั้งได้เลย 2. หมอนรองให้นม เป็นหมอนรองให้นมสำหรับเด็กแฝด พรีออเดอร์มาจากอเมริกา เป็นของอย่างแรกที่ซื้อเตรียมไว้ แต่พอมาใช้จริงที่โรงพยาบาล ภรรยารู้สึกใช้ไม่ถนัด ประกอบกับพยาบาลสอนแบบอุ้มท่าฟุตบอลแล้วใช้ผ้าหนุนหรือหมอนหนุนเอา แล้วก็สอนท่าให้นมแบบนอนให้ เลยไม่ติดใจใช้หมอนรองให้นมเลย ตอนนี้เลยต้องเก็บไปตามระเบียบ รอไว้มาใช้ตอนให้ลูกหัดนั่งก็แล้วกัน 3. เพลเพน ดีที่ไม่ได้ซื้อเอง รับมรดกตกทอดมา คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ ตั้งแต่ได้มายังไม่เคยให้ลูกนอนเลยสักครั้ง ส่วนใหญ่จะลงเปลโยกแทน 4. ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบกางเกง เด็กวัยนี้รู้สึกว่าใช้ไม่ดีเท่าแบบเทป ส่วนตัวรู้สึกว่าถอดเปลี่ยนยาก…
การเลี้ยงเด็กสักคนต้องลงแรงมากแถมต้องลงทุนเยอะด้วย ยิ่งผมมีลูกฝาแฝดถ้าประหยัดเงินในส่วนข้าวของเครื่องใช้ที่เกินจำเป็นสำหรับเจ้าตัวเล็กไปได้บ้างก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อย เพื่อเก็บไว้ลงทุนด้านการศึกษาและการดำรงชีวิตด้านอื่นๆในอนาคตด้วย ฉนั้น แทบทุกครั้งก่อนจะซื้อของใช้ลูก ภรรยาของผมจะใช้เวลารีวิวของใช้ที่คิดว่าซื้อมาแล้วน่าจะคุ้มค่าที่สุด เกิดประโยชน์และปลอดภัยกับลูกมากที่สุด ซึ่งบางอย่างซื้อมาก็ได้ใช้บ่อยจนต้องไปซื้อมาเพิ่มสำหรับสองคนบ้าง (คือถึงผมจะมีลูกแฝด แต่ก็ไม่ได้ซื้อทุกอย่าง 2 ชิ้นเสมอ) จึงอยากแบ่งปันสิ่งที่คิดว่าซื้อมาแล้วได้ใช้คุ้มที่สุดตั้งแต่ลูกเกิดมาจนตอนนี้ลูกก็ได้ 5 เดือนกว่าๆแล้ว วันนี้ขอเลือกมา 4 อย่างก่อนแล้วกัน คือ 1. car seats จากการที่รีวิวมานาน เราเลือกใช้ของ Ailebebe Kurotto Premium ใช้ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาลและทุกครั้งเวลาที่ต้องออกจากบ้าน ไม่ว่าจะไปหาหมอ ไปโบสถ์ ไปคอนโด ไปต่างจังหวัดหรือไปไหนทุกที่ ไม่ว่าจะไปใกล้หรือไกลก็ต้องนั่งคาร์ซีททุกครั้งก็เพื่อความปลอดภัย เพราะว่าสมัยนี้รถเยอะ แม้เราก็ขับรถปลอดภัยแต่เราก็ไม่รู้ว่าคนอื่นจะขับอย่างไร อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ระวังไว้ก่อนเป็นดีครับ แต่ก็ต้องติดตั้งให้ถูกวิธีและรัดเข็มขัดทุกครั้งนะครับ 2. เปลโยก…
ช่างที่ต้องมี เพื่อให้ความสัมพันธ์ราบรื่นจะต้องเรียนรู้ที่จะเป็น “ช่าง” ต่อไปนี้ 1. ช่างเอาอกเอาใจ เป็นช่างที่ใส่ใจความรู้สึกและความต้องการของอีกฝ่าย ซึ่งไม่เพียงจะทำให้อีกฝ่ายมีความสุข แต่ยังส่งผลดีต่อความสัมพันธ์และบรรยากาศในครอบครัวด้วย ตัวอย่างที่คุณอาจทำได้ เช่น เวลากลับมาบ้านเหนื่อยๆก็หาน้ำให้ดื่ม จัดเตรียมอาหาร บีบนวดผ่อนคลาย 2. ช่างชื่นชม เป็นช่างที่ให้กำลังใจและมีคำพูดให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขาเป็นคนเก่ง เป็นคนมีคุณค่า ซึ่งต่างจากการป้อยอ เพราะการชื่นชมเกิดจากการเห็นคุณค่าของอีกฝ่ายและแสดงออกมาเป็นคำพูดและการกระทำว่าเราประทับใจและชื่นชมด้วยความจริงใจ แต่การป้อยอนั้นเข้าข่ายการโกหกหลอกลวงเพื่อทำให้เขาพอใจ ทั้งๆที่ความจริงแล้วเราอาจไม่ได้รู้สึกเช่นที่พูดออกไป 3. ช่างรู้ใจ เป็นช่างที่มองทะลุเข้าไปในความคิดและจิตใจ จะรู้ว่าอีกฝ่ายชอบหรือไม่ชอบอะไร อะไรที่ทำแล้วมีความสุขหรือทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นทุกข์ 4. ช่างมัน เป็นวิชาช่างขั้นสูง เป็นการผสมสองศาสตร์เข้าด้วยกัน คือการให้อภัย และความอดทน ซึ่งมีประโยชน์มากในการรักษาความสัมพันธ์ ถ้าคุณเป็นคนช่างมันได้แล้ว เรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่กวนใจ คุณก็จะสามารถมองข้ามไปได้ ไม่เก็บมาคิด ไม่ต้องกังวลใจ…
เข้าแข่งขันไตรกีฬาภายในวันที่ 30 กันยายน ให้เป็นของขวัญวันเกิดตัวเอง สร้างนวัตกรรมใหม่ให้เกิดในวงการไอทีโลก อ่านหนังสึอให้ได้เพิ่มอีก 50 เล่มจากปีก่อน ด้วยการเพิ่มความเร็วเฉลี่ยการอ่านให้อยู่ที่ 800 คำต่อนาที ตั้งใจเรียนภาษาจีนสำหรับธุรกิจให้สามารถใช้งานในแวดวงธุรกิจได้ ช่วยคนอย่างน้อยหนึ่งคนให้มีชีวิตใหม่ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทั้งด้านการเงิน จิตวิญญาณ และ สุขภาพ ออกสอนวัฒนธรรมประสิทธิภาพสูงให้กับทั้งภาคเอกชน รัฐบาล และ การกุศล
หลากหลายเรื่องราวประทับใจมากมายที่เกิดในปี 2013 แต่ขอเลือกสามพระพรไว้ช่วยเตือนความจำตัวเอง พระพรที่ได้เจอคนที่ทำให้เราได้พัฒนาศักยภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านธุรกิจข้ามชาติ ในหลากหลายประเทศ ทำให้เราเข้าใจวัฒนธรรมของชาติอื่นๆมากขึ้น เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศใหม่ที่ถูกบรรจุเข้าสู่ความทรงจำ ได้มีโอกาสเจอะเจอผู้ใหญ่มากมายในแวดวงธุรกิจ ให้โอกาสเราในการพิสูจน์ว่าทุกอย่างเป็นไปได้ถ้าเราไปด้วยกัน สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้มากขึ้นไปอีกคือ ยิ่งเป็นคนเก่งมาก ก็ยิ่งฟังมาก ปีนี้ได้เจอคนเหล่านี้เยอะจริงๆ พระพรเรื่องลูกแฝด ที่ไม่ได้คาดการณ์ แต่เป็นเรื่องดี เพราะทำให้เรารู้ว่าการเป็นพ่อที่ดีนั้น มันยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ยิ่งใหญ่แค่ไหนก็สู้แม่ไม่ได้ เพราะว่าเหนื่อยกว่าพ่อเป็นล้านเท่า ขอบคุณภรรยาที่สุดแสนจะอดทน น่ารัก และไม่บ่นเลยแม้ว่าจะได้นอนไม่เกิน สี่ชั่วโมง มาเป็นเวลาห้าเดือนแล้ว ขอบคุณสำหรับครอบครัวทั้งไทยและเทศที่มาช่วยกันทำให้ครอบครัวเราสมบูรณ์ขึ้น ทำให้เราได้มีเวลาปรับตัวก่อนที่จะเป็นครอบครัวเดี่ยวดังที่ใจหวัง พระพรเรื่องจิตวิญญาณที่ทำให้เราก้าวข้ามขั้นไปอีกหนึ่งขั้นในการให้ความไว้วางใจพระเจ้าที่ บางครั้ง บางเรื่องมืดแปดด้าน แต่พระเจ้าทรงเปิดด้านที่เก้ามาให้เราได้เห็นทางสว่าง แม้แต่ในเส้นทางธุรกิจที่พระเจ้ายังได้ส่งคนมาคอยให้กำลังใจ และสนับสนุนเราเรื่อยมา ขอบคุณภรรยาอีกเช่นกันที่อยู่เคียงข้าง และคอยหนุนใจเวลาที่ท้อแท้ เธอคือพระพรฝ่ายจิตวิญญาณเช่นกัน
วัฒนะธรรมของคนในแถบเอเชียคือการอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ เมื่อลูกชายแต่งงานกับหญิงใด ส่วนใหญ่จึงมักย้ายเข้ามาอยู่ในครอบครัวฝ่ายชาย หลากหลายเรื่องราวที่เคยได้ยินสำหรับคู่ชีวิตหลายคู่ที่มักอยู่ด้วยกันไม่ได้เพราะว่าฝ่ายหญิงเองไม่สามารถปรับตัวเข้ากับครอบครัวของฝ่ายชายได้ ในบางคู่นั้นดีหน่อยที่ฝ่ายชายเข้าใจและย้ายออกไปอยู่เป็นครอบครัวเดี่ยว เพราะเข้าใจว่าการที่คนสองคนมาจากครอบครัวที่ต่างกัน การปรับตัวนั้นก็ยากพออยู่แล้ว ถ้าดันมาเจอพ่อตาแม่ยาย หรือว่าพี่น้องของฝ่ายชายอีกคงเป็นเรื่องยากที่ชีวิตคู่จะอยู่ด้วยกันยาก โดยส่วนตัวเชื่อว่าการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ต้องเป็นครอบครัวเดี่ยว แล้วถ้าเกิดมีลูกขึ้นมา ในช่วงเดือนแรกถึงสามเดือนอาจพออลุ่มอล่วยให้ฝ่ายหญิงไปอยู่กับแม่ของตน เพราะว่าเป็นช่วงที่ต้องการกำลังใจจากแม่แท้ๆ หลังจากนั้นต้องย้ายออกเพื่อว่าจะได้เริ่มปูพื้นฐานการเลี้ยงลูกในแบบฉบับของสองสามีภรรยา จะร้ายจะดีจะได้ไม่มีข้ออ้างให้ตัวเองว่าเกิดจากการเลี้ยงดูของคนอื่น และเป็นการสร้างความรับผิดชอบให้กับทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ไม่ใช่สักแต่ต้องไปพึ่งพ่อแม่ของตน
อาทิตย์นี้มีโอกาสได้ไปนั่งเรียน Certified Scrum Developer ของ บริษัท Odd-e รู้สึกตัวเองได้เรียนรู้อะไรมากทีเดียว หลักสูตรทั้งหมดเรียนทั้งหมดหกวัน วันนี้เป็นวันที่สาม แต่เริ่มได้อารมณ์ตกผลึกจากการทำงานร่วมกันของคอร์สนี้ อาจงงว่า ไปเรียนไม่ใช่หรือ ทำไมไปทำงาน? หลักการของคอร์สนี้คือเอาผู้เรียนเป็นศูนย์กลางสลับกับการสอน ปนกันไป สิ่งที่ได้เรียนรู้อย่างมากนอกจากเนื้อหาที่ดีแล้ว คือ ความวุ่นวาย เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามีข้อตกลงที่ชัดแล้ว งานเดินได้ นักพัฒนาควรจะได้รับการฝึกฝนเรื่องของการใช้ Editor ให้คล่องเพราะว่ามันประหยัดเวลาไปเยอะมาก เขียนเทสก่อนเสมอดูเหมือนเสียเวลามาก แต่มันทำให้โค๊ดกากๆของเราทำงาน และกลายเป็นโค๊ดที่ใช้งานได้ในที่สุด จำไว้เสมอว่า เวลาพัฒนาโปรแกรมให้ทำงานให้ออกมาก่อน แล้วดีไซน์ทีดีจะค่อยๆมาเอง (อย่าลืมทำเทสก่อนด้วย) จำนวนสมองที่คิดอย่างเป็นระบบ มีประโยชน์กว่าจำนวนมือที่อยู่บนคีย์บอร์ด ใช้ Mock เยอะเกินไปทำให้เราด้อยประสิทธิภาพในการเขียนเทส โค๊ดที่ดีไม่มีจริง (เพราะว่านักพัฒนามีความชอบและสไตล์ไม่เหมือนกัน มีแต่โค๊ดที่ไม่มีกลิ่นเหม็น…
สำหรับหลายๆคนความมั่นใจคงเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจมีมาแต่กำเนิด แต่ส่วนตัวเชื่อว่ามีคนอยู่ไม่น้อยทีเดียวที่ ขาดความมั่นใจ และหลายครั้งไม่กล้าทำบางอย่างทั่งๆที่รู้ว่าตัวเองทำได้ เพียงเพราะขาดความมั่นใจ หลายคนเชื่อว่าความมั่นใจเป็นสิ่งที่ติดตัวมา และเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับใครหลายคน แต่ส่วนตัวเชื่อว่า ความมั่นใจเป็นเรื่องที่สร้างได้ถ้าเราเริ่มต้น โจทย์หนึ่งที่เจออยู่เป็นประจำในการเป็นโคชคือต้องหาทางที่จะบอกวิธีการสร้างความมั่นใจอย่างง่ายที่ใครก็สามารถเอาไปต่อยอดได้ โดยส่วนตัว ความมั่นใจในตัวเอง คือ ทักษะอย่างหนึ่งในการที่เราสามารถที่จะสร้างความเชื่อให้กับตัวเองในการทำอะไรก็ได้ที่เราต้องการให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ไม่ว่าจะมีอะไรกั้นขวาง ซึ่งพอจะคิดออกได้ 4 สิ่งที่เชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้น ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับใครก็ได้อย่างแน่นอน การทำซ้ำ เราต้องทำเรื่องเดิมซ้ำๆจนมันไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป เชื่อว่าทุกๆคนที่เคยเป็นนักกีฬาต่างรู้ดีว่าการทำบางอย่างซ้ำๆคือการสร้างความเชื่ยวชาญ นักฟุตบอบชื่อดังหลายๆคนที่เรารู้จัก เช่น เดวิด เบคแฮม ต่างไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในการยิงบอลได้อย่างแม่นยำ แต่หากเกิดจากความเพียรพยายามในการซ้อมยิงบอลเป็นพันๆหมื่นๆลูกเพื่อกระตุ้นให้กลายเป็นความเชื่อมั่น และหลายครั้งกลายเป็นสัญชาติญาณ การลงมือทำซ้ำๆบ่อยๆคือทักษะอย่างหนึ่ง ถ้าเราเป็นโปรแกรมเมอร์ การทำเทสให้เบื่อกันไปข้างหนึ่งคือวิธีที่ง่ายทีสุดในการสร้างโปรแกมที่จะไม่มีบัค ผมยังจำได้ครั้งแรกที่แข่งขันสุทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษต่อหน้าคน เป็นพันๆคน จำได้ว่าท่องสุนทรพจน์เป็นร้อยๆครั้ง ต่อหน้าครู เพื่อนๆ พี่ๆน้อง ครอบครัว พอขึ้นเวที มันกลายเป็นอัตโนมัติ…