ช่วงนี้ถ้าใครไม่รู้จักละครเรื่องทองเนื้อเก้า ที่ทำเอาถนนโล่งตอนช่วงหัวค่ำ กรมสุขภาพจิต กระทรวง ทบวงกรม ต่างออกมาวิพากวิจารณ์ ละครดังกล่าวว่าเข้าข่ายทำลายจิตสำนึกที่ดีของเด็กไทย ได้มีโอกาสได้ดูไปบางตอน บ่องตง ก็สนุกดีเหมือนกัน และในหลายๆวันที่ไม่ได้ดูก็จะรู้ความเคลื่อนไหวเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะว่าเฟสบุค เพื่อนๆนี่ต่างพากันรุมด่าว่าลำยอง มากมาย สนุกปาก
นอกเหนือจากความสนุกของเรื่องที่แฉชีวืตของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีลักษณะนิสัยที่ไม่ค่อยดีนักในการเลี้ยงลูก เป็นกุลสตรีที่ดี กตัญญู และคุณสมบัติต่างที่เราในสังคมมองว่าเป็นสื่งที่ดีควรทำในกรอบของสังคมไทย
ถ้าเรามองอีกมุม ลำยองมีบุคลืกบางอย่างที่จะทิ้งเป็นข้อคิดให้คนในสังคมได้มองย้อนว่าเราน่าจะได้เรียนรู้อะไร นอกจากความไม่เอาไหนของลำยอง
ที่ขัดๆที่มองเห็นคือ ลำยองมีความมุ่งมั่นที่จะได้มาซึ่งเป้าหมายที่ชัดเจนว่า ขาตินี้ ต้องอยู่โดยไม่ต้องทำงาน หาความสุขไปให้มากที่สุด มุ่งมั่นขนาดที่ยอมละทิ้งจากคนรอบข้างว่าเป็นคนไร้ความเป็นมนุษย์แค่ไหน สื่งที่น่ายกย่องของลำยองคือ ไม่ว่าจะเจอสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจแค่ไหน ลำยองก็จะยืดเป้าหมายของตนไว้ให้มั่น และมองหาโอกาสต่อไปเสมอๆ
ละครเรื่องนี้ตอนสุดท้าย ลำยองเป็นเอดส์ตาย (อย่าโกรธกันที่เฉลย อิๆ) แต่ในชีวืตจรืงเราอาจเคยเจอลำยองที่ประสบความสำเร็จในการตามหา และทำตามเป้าหมายที่วางไว้สำเร็จและได้สามีที่ทำให้ตัวเองไม่ต้องทำงานไปตลอดชีวืตได้
คงไม่ได้กำลังบอกให้ทำตามลำยอง แต่อยากให้ลองคืดดูว่าบ่อยครั้งแค่ไหนที่เราตั้งใจจะทำอะไรซักอย่าง แล้วคนรอบข้าง ไม่เห็นด้วย แล้วเราก็หยุดทำไป เพราะคำพูดของคนอื่น เพียงเพราะว่ากรอบของสังคมบอกว่า เราจะมีชีวืตที่ดี ที่หลายคนยกย่อง ด้วยการเป็นไปตามเส้นทางที่สังคมวางไว้
โดยส่วนตัวคิดว่าสังคมเรามีคนที่เหมือนกันมากพอแล้ว ถ้าเราจะก้าวไปข้างหน้า เราคงต้องหาตัวตนของเราให้เจอ และจัดหนักความตั้งใจ โดยไม่สนใจเสียงของคนรอบข้างบ้างในบางเรื่องที่ไม่ได้ก่อให้เกืดความเสียหายต่อชีวืตของเราและคนรอบข้าง บางครั้งเราอาจจะได้เป็นลำยองที่ต้อนบั้นปลายประสบความสำเร็จ โดยที่คนอื่นอาจอืจฉาตาร้อนก็เป็นได้
Leave a Reply