Category: baby

  • จริงไหม ทารกที่เกิดมาตัวยาวโตขึ้นจะตัวสูง

    ใคร ๆ ก็อยากให้ลูกสูง คุณแม่ก็มักจะบำรุงตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนลูกเกิด มีคนบอกว่าถ้าเด็กแรกเกิดออกมาตัวสูง โตขึ้นก็จะสูง คำตอบคือ “จริง” เด็กที่ตอนแรกเกิดคลอดออกมาตัวยาวมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ตัวสูงในอนาคต ความสูงของพ่อแม่ก็อาจจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะสามารถดูได้ว่าลูกจะเกิดมาตัวสูงหรือไม่ เพราะลูกได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรมจากพ่อแม่นั่นเองค่ะ และในตามหลักปัจจัยทางพันธุกรรมเราอาจประมาณความสูงของลูกได้ด้วยการนำความสูงของพ่อกับแม่ (หน่วยเป็นนิ้ว) มารวมกัน จากนั้นให้หารด้วย 2 และบวกเพิ่ม 2.5 นิ้วสำหรับเด็กผู้ชาย และลบออก 2.5 นิ้วสำหรับเด็กผู้หญิง และอีกหลักการหนึ่งก็คือ ลูกจะมีความสูงเมื่อโตขึ้นจะเป็น 2 เท่าของความสูงเมื่ออายุ 3 ปี อย่างไรก็ดีสูตรคำนวณทั้งสองเป็นเพียงแนวโน้มเท่านั้น ไม่ได้การันตีว่าลูกจะสูงเท่านี้แน่ๆ ทางที่ดีควรให้ลูกออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อการเติบโตที่แข็งแรงสมวัยในอนาคต

    (Cr: www.theasianparent.com)

    Singapore Parenting Magazine for baby, children, kids and parents

  • ของใช้เด็กที่คิดว่าคุ้มและไม่คุ้ม (ตอนที่ 2)

    แต่ก็มีบางอย่างที่เมื่อซื้อมาแล้วคนเลี้ยงใช้ไม่ถนัดบ้างและไม่พยายามนำมาใช้ด้วยเลยไม่ค่อยได้ใช้และต้องเก็บไปตามระเบียบ บางอย่างเก็บไว้อย่างดีจนลืมนำออกมาใช้ก็มี พอมาดูอีกครั้งลูกก็โตเกินกว่าที่จะใช้ได้แล้ว จะขอแชร์ 4 อย่างคือ

    1. ฟองน้ำ ก่อนคลอดซื้อฟองน้ำแบบธรรมชาติมาอย่างแพง 500 บาท แต่คนสอนอาบน้ำใช้ผ้าเช็ดหน้าเด็กแทน ผืนละ 39 บาทเอง ตอนนี้เลยถนัดใช้เป็นผ้าไปแล้ว สรุปว่าได้ใช้ฟองน้ำอยู่นับครั้งได้เลย

    2. หมอนรองให้นม เป็นหมอนรองให้นมสำหรับเด็กแฝด พรีออเดอร์มาจากอเมริกา เป็นของอย่างแรกที่ซื้อเตรียมไว้ แต่พอมาใช้จริงที่โรงพยาบาล ภรรยารู้สึกใช้ไม่ถนัด ประกอบกับพยาบาลสอนแบบอุ้มท่าฟุตบอลแล้วใช้ผ้าหนุนหรือหมอนหนุนเอา แล้วก็สอนท่าให้นมแบบนอนให้ เลยไม่ติดใจใช้หมอนรองให้นมเลย ตอนนี้เลยต้องเก็บไปตามระเบียบ รอไว้มาใช้ตอนให้ลูกหัดนั่งก็แล้วกัน

    3. เพลเพน ดีที่ไม่ได้ซื้อเอง รับมรดกตกทอดมา คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ ตั้งแต่ได้มายังไม่เคยให้ลูกนอนเลยสักครั้ง ส่วนใหญ่จะลงเปลโยกแทน

    4. ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบกางเกง เด็กวัยนี้รู้สึกว่าใช้ไม่ดีเท่าแบบเทป ส่วนตัวรู้สึกว่าถอดเปลี่ยนยาก ที่ซื้อมาเพราะซื้อมาผิดและซื้อมาตั้ง 3 ห่อใหญ่ ตอนนี้ก็เก็บไว้ให้คนที่ชอบแบบกางเกงต่อไป

    นี่เป็นกรณีของครอบครัวของผม ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่คิดว่าคุ้มหรือไม่คุ้มของแต่ละบ้านก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและการใช้งานของแต่ละครอบครัวนั้นๆ

  • ของใช้เด็กที่คิดว่าคุ้มและไม่คุ้ม (ตอนที่ 1)

    การเลี้ยงเด็กสักคนต้องลงแรงมากแถมต้องลงทุนเยอะด้วย ยิ่งผมมีลูกฝาแฝดถ้าประหยัดเงินในส่วนข้าวของเครื่องใช้ที่เกินจำเป็นสำหรับเจ้าตัวเล็กไปได้บ้างก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อย เพื่อเก็บไว้ลงทุนด้านการศึกษาและการดำรงชีวิตด้านอื่นๆในอนาคตด้วย ฉนั้น แทบทุกครั้งก่อนจะซื้อของใช้ลูก ภรรยาของผมจะใช้เวลารีวิวของใช้ที่คิดว่าซื้อมาแล้วน่าจะคุ้มค่าที่สุด เกิดประโยชน์และปลอดภัยกับลูกมากที่สุด ซึ่งบางอย่างซื้อมาก็ได้ใช้บ่อยจนต้องไปซื้อมาเพิ่มสำหรับสองคนบ้าง (คือถึงผมจะมีลูกแฝด แต่ก็ไม่ได้ซื้อทุกอย่าง 2 ชิ้นเสมอ) จึงอยากแบ่งปันสิ่งที่คิดว่าซื้อมาแล้วได้ใช้คุ้มที่สุดตั้งแต่ลูกเกิดมาจนตอนนี้ลูกก็ได้ 5 เดือนกว่าๆแล้ว วันนี้ขอเลือกมา 4 อย่างก่อนแล้วกัน คือ

    1. car seats

    จากการที่รีวิวมานาน เราเลือกใช้ของ Ailebebe Kurotto Premium ใช้ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาลและทุกครั้งเวลาที่ต้องออกจากบ้าน ไม่ว่าจะไปหาหมอ ไปโบสถ์ ไปคอนโด ไปต่างจังหวัดหรือไปไหนทุกที่ ไม่ว่าจะไปใกล้หรือไกลก็ต้องนั่งคาร์ซีททุกครั้งก็เพื่อความปลอดภัย เพราะว่าสมัยนี้รถเยอะ แม้เราก็ขับรถปลอดภัยแต่เราก็ไม่รู้ว่าคนอื่นจะขับอย่างไร อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ระวังไว้ก่อนเป็นดีครับ แต่ก็ต้องติดตั้งให้ถูกวิธีและรัดเข็มขัดทุกครั้งนะครับ

    2. เปลโยก

    ซื้อมาตอนลูกอายุได้ 2 เดือน เพราะว่าลูกติดให้อุ้มแล้วคนอุ้มเริ่มเมื่อย เลยไปซื้อมาใช้ 1 ตัวก่อน แล้วเปลโยกที่ซื้อมามีระบบสปริงซึ่งคนขายแนะนำว่าต้องรุ่นนี้เลยสำหรับเด็กติดมือ (แต่ส่วนตัวคิดว่าอย่าเด้งแรงเลย กลัวมีผลต่อสมอง เวลาใช้ก็เลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังอย่างเดียว) ผลคือช่วยทุ่นแรงได้เยอะมาก ลูกสามารถนอนเล่นในเปลโยกได้ หรือบางครั้งก็วางลูกไว้ในนี้แล้วเราก็ละไปทำอย่างอื่นได้ชั่วครู่ด้วย ใช้ดีจนต้องไปซื้อมาเพิ่มเป็น 2 ตัวเลย จนป่านนี้เวลาลูกหลับยากก็ให้ลูกนั่งในเปลโยก ลากไปลากมาก็หลับแล้วค่อยอุ้มไปวางบนเตียง คุ้มจริงๆ

    3. play mat

    อันนี้มีคนซื้อมาฝาก เป็นของเล่นเสริมพัฒนาการ สีสันสดใส มีแสงไฟหลากสี และเสียงจากของเล่นแต่ละชิ้น ลองให้ลูกเล่นตั้งแต่อายุ 2 เดือนกว่า ตอนแรกก็ยังนอนมองนิ่งๆ พอได้สัก 3 เดือนก็เริ่มจับบ้าง พอ 4 เดือนก็เริ่มตีๆเตะๆจับ พร้อมกับส่งเสียงร้องชอบใจ คนพี่นอนเล่นในนั้น คนน้องก็นอนด้านนอกดูพี่เล่นไปด้วยได้ สามารถนอนเล่นเพลินๆ ได้สัก 10-15 นาทีจนกว่าจะเบื่อ จนตอนนี้ก็ยังได้ใช้เล่นอยู่เวลาต้องทำโน่นนี่ไปด้วย

    4. Oball

    ลูกบอล ถือเป็นของเล่นชิ้นสำคัญที่เด็กๆทุกคนชอบ ผมซื้อให้ลูกน้อยเล่นตั้งแต่ 3 เดือน เมื่อลูกเริ่มถอดถุงมือ จึงฝึกให้เขาจับและเรียนรู้ผิวสัมผัสแบบต่างๆ ไม่นานลูกสามารถจับลูกบอลไว้ได้อย่างถนัดและไม่ร่วงหล่นเพราะสามารถจับเกี่ยวลูกบอลมุมไหนก็ได้ จนเดี๋ยวนี้ก็ใช้เสมือนยางกัดได้ ลูกสามารถอยู่กับตัวเองและเล่นได้ ไม่ว่าจะไปไหนต้องพกติดตัวไว้ตลอด